บทคัดย่อ

การจัดการเรียนการสอนในปัจจุบันจำเป็นอย่างยิ่งต้องมีการสร้างนวัตกรรมนำมาใช้ในกระบวนการเรียนการสอน เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น ดังนั้นผู้รายงานมีวัตถุประสงค์ของการศึกษาค้นคว้าดังนี้ 1) เพื่อสร้างแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความจากสื่อ รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท23101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80 / 80  2) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความจากสื่อ รายวิชาภาษาไทย  รหัสวิชา ท23101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโดยใช้ แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความจากสื่อ รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท23101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3  ก่อนเรียนและหลังเรียน 4) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความจากสื่อ รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท23101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3.2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3.2 โรงเรียนพุทธชินราชพิทยา อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 39 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 จำนวน 42 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าประกอบด้วย 1) แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความจากสื่อ รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท23101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 5 เล่ม 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท23101 ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 1 ฉบับ 40 ข้อ มีค่าความยาก (p) รายข้อตั้งแต่ 0.28-0.76 มีค่าอำนาจจำแนก (r) รายข้อตั้งแต่ 0.33 ถึง 0.82 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.89 3) แบบประเมินความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความจากสื่อ รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท23101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 1 ฉบับ เป็นแบบประเมินชนิดมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับจำนวน 10 ข้อ มีค่าสัมประสิทธิ์แอลฟ่า () 0.9301 การวิเคราะห์ข้อมูลประกอบด้วยสถิติร้อยละค่าเฉลี่ย () ค่าสถิติส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่าสถิติดัชนีประสิทธิผล ค่าสถิติที(t-test) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ค่าสถิติประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความจากสื่อ ใช้สูตรการหาค่าความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา(IOC)